หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ "เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว" กับวัตถุมงคลยอดนิยมอันดับหนึ่งตลอดกาลเมืองปากน้ำโพ

รูปเหมือนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ พิมพ์ D

พระครูนิวาสธรรมขันธ์ หรือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ ท่านกำเนิดเมื่อวันพุธ แรม 13 ค่ำ เดือน 3 ปีวอก ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2403 เมื่ออายุท่านเข้าเกณฑ์บวช ท่านได้เข้ารับการอุปสมบท เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2423  ณ พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยมี หลวงพ่อแก้ว วัดอินทาราม เป็นอุปัชฌายะ หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง และ หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล เป็นคู่สวด

หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ "เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว"

หลวงพ่อเดิมได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดได้ศึกษาพระเวทย์อาคม กับ หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง ซึ่งท่านเก่งทางด้านการทำน้ำมนต์มาก เล่ากันว่า สมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์เสด็จประพาสต้นที่นครสวรรค์ พระองค์ยังทรงเคยได้รับการรดน้ำพระพุทธน้ำมนต์โดยหลวงพ่อเงิน อีกด้วย นับว่าหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง เป็นพระที่ทรงวิทยาคุณโดยแท้ จากนั้นหลวงพ่อเดิมก็ได้มาศึกษาวิชา การสร้างมีดหมอ จาก หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ซึ่งต่อมาการสร้างมีดหมอของหลวงพ่อเดิมเป็นสิ่งที่ทำให้คนทั่วไปได้รู้จักชื่อเสียงของหลวงพ่อเดิมขจรขจายออกไปในหลายๆ พื้นที่นอกเหนือจากนครสวรรค์แล้ว ยังมีจังหวัดใกล้เคียงที่ต่างทราบเกียรติคุณของท่านต่างก็เดินทางมากราบขอบารมีท่านเป็นอันมาก

บรรยากาศวัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

โดยเฉพาะในช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง ชื่อเสียงของ หลวงพ่อเดิม เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้นมีคนต่างมาให้หลวงพ่อสงเคราะห์กันมากโดยเฉพาะที่วัดหนองโพเต็มไปด้วยบรรดาศรัทธาญาติโยมทั้งใกล้และไกลต่างเดินทางมาให้หลวงพ่อเดิมเป่ากระหม่อมบ้าง มาให้ท่านเหยียบผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าบ้าง มาขอวัตถุมงคล ทั้งเหรียญ รูปเหมือน พระงาแกะ มีดหมอ ตะกรุด และอื่นๆ สุดแท้แต่ชาวบ้านจะมาขอท่าน และไม่ใช่มีเฉพาะบรรดาชาวบ้าน พ่อค้า แม่ขาย ที่มาเป็นลูกศิษย์ท่าน รูปผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็มาเป็นลูกศิษย์ท่านมากไม่ไม่ใช่น้อย บางคนเป็นถึงผู้นำประเทศเลยทีเดียว

รูปหล่อหลวงพ่อเดิม ที่วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

หลวงพ่อเดิมได้สร้างรูปเหมือนของท่านขึ้นครั้งแรกที่ วัดหนองหลวง ซึ่งเป็นรูปหล่อโบราณ หล่อออกมามีสองพิมพ์ คือ พิมพ์ฐานสูง และ ฐานเตี้ย สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2482 สร้างและปลุกเสกเสร็จแล้วก็แจกบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั่วไปจนหมดไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาทางวัดหนองโพ จึงมีความประสงค์จะสร้างรูปเหมือนของหลวงพ่อเดิมบ้าง แต่เป็นการสร้างด้วยเครื่องจักรในสมัยนั้นไม่ต้องมาหล่อให้เสียเวลาเลยจ้างให้โรงงานทำการปั๊มรูปหล่อของหลวงพ่อเดิมซึ่งก็ปั๊มในปี พ.ศ. 2482 เหมือนกัน โดยสร้างออกเป็นสองเนื้อ คือ เนื้อช้อนส้อม หรือเรียกว่า เนื้ออัลปาก้า และ เนื้อทองผสม ทั้งสองเนื้อสร้างประมาณ 500 องค์ สร้างเสร็จหลวงพ่อก็แจกไปเรื่อยๆจนหมด ซึ่งรูปเหมือนชุดแรกนี้วงการพระเครื่องนิยมเรียกว่า พิมพ์ A ต่อมารูปเหมือนปั๊มชุดนี้หมดลง ทางหลวงพ่อน้อย ก็ได้สั่งโรงงานปั๊มเพิ่มอีก แต่ด้วยการปั๊มแต่ละครั้งทำให้แม่พิมพ์ที่มีอยู่ตัวเดียวเกิดการชำรุดไปเรื่อยๆ ความคมชัดของรายละเอียดในองค์รูปเหมือนก็ค่อยๆจางลงไป จึงกลายเป็นที่มาของรูปเหมือนหลวงพ่อเดิมพิมพ์ B พิมพ์ C และ พิมพ์ D ในที่สุด รูปเหมือนตั้งแต่พิมพ์ A จนถึง พิมพ์ D ใช้เวลาในการสร้างไปเสกไป ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482-2492 ดังนั้นรูปเหมือนของหลวงพ่อเดิมจึงไม่ได้สร้างครั้งเดียวจบแต่สร้างเป็นวาระต่างๆขึ้นอยู่กับจำนวนรูปเหมือนหมดลงจากวัดจึงสั่งปั๊มใหม่ จนต่อมาแม่พิมพ์ดังกล่าวชำรุดหนักเกินที่จะปั๊มได้อีก ทางวัดจึงได้สร้างแม่พิมพ์ใหม่ขึ้นมาก แต่ขาดความงามเนื่องจากเร่งรีดในการสร้าง จึงเป็นที่มาของรูปเหมือนหลวงพ่อเดิมพิมพ์คอตึง และ พิมพ์หูกาง นั้นเอง

พระมหาธาตุเจดีย์ - พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

คราวนี้มาสู่ไฮไลท์สำคัญของบทความนี้กันครับ นั้นคือหลักการพิจารณาพระแท้ โดยพระเครื่องที่นำมาพิจารณาในบทความนี้ นั้นก็คือ รูปเหมือนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ พิมพ์ D นั้นเองครับ โดยรูปเหมือนนี้มีหลักการพิจารณาดังต่อไปนี้


1. บริเวณใต้มือมีร่องหลุมลึกตรงผ้าสังฆาฏิ ซึ่งเรียกว่า ร่องโพธิ์

2. มีเม็ดผดคล้ายขี้กลากขึ้นบริเวณซอกด้านหลังแขนหลวงพ่ออย่างชัดเจน

3. ลักษณะรอยตะไบตรงฐาน จะคล้ายลูกศรปากกา มีความคม ชัด และลึก

4. .ใต้ฐานรูปเหมือน จะมีรอยจารอักขระที่มีความแผ่วบางๆ เส้นไม่ลึกมาก แต่ดูพริ้วและกลืนกับเนื้อ

รูปเหมือนของหลวงพ่อเดิม นับได้ว่าเป็นรูปเหมือนที่แพงที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย จะเป็นรองก็แค่ รูปหล่อของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เท่านั้น แต่พุทธคุณของรูปเหมือนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นับว่าโดดเด่นมาก โดยเฉพาะเรื่อง แคล้วคลาด คงกระพัน และ เมตตามหานิยม นับว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งประเทศไทยจริงๆ ด้วยเพราะว่าบารมีของหลวงพ่อเดิม ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว" คงไม่ต้องสงสัยถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณในพระเครื่องของท่านนะครับว่าจะสุดยอดแค่ไหน…

--------

ไชยเดช  ไฝทอง

21 กุมภาพันธ์ 2560

ขอบคุณภาพประกอบ

oknation.nationtv.tv

bloggang.com/สองแผ่นดิน

bloggang.com/เหมียวสินธร